“จ่ายเงินออนไลน์” ระบบชำระเงินที่คนทำธุรกิจ “ออนไลน์” ไม่ควรมองข้าม

โดย Pay Solutions


ไหนใครไม่รู้จักระบบชำระเงินออนไลน์บ้างยกมือขึ้น? คาดว่าจำนวนคนที่ยกมือน่าจะมีน้อยมาก ลองคิดเล่น ๆ ว่าในชีวิตประจำวันของเราในทุกวันเกี่ยวข้องกับการจ่ายเงินผ่านทางออนไลน์มากน้อยเพียงใด ไม่ใกล้ไม่ไกลตัวเราเลยมีแอปพลิเคชันหนึ่งที่ทุกคนน่าจะคุ้นเคยกันแล้วนั่นก็คือแอป เป๋าตัง

“เป๋าตัง” เป็นแอปพลิเคชันที่อธิบายถึงระบบชำระเงินออนไลน์ได้เป็นอย่างดี แต่ก็เป็นเพียงแค่รูปแบบหนึ่งจากหลากหลายรูปแบบที่มีอยู่ เห็นหรือยังว่าชีวิตประจำวันของเราเกี่ยวข้องกับการจ่ายเงินออนไลน์ไปแล้วแบบไม่รู้ตัว นี่เป็นตัวอย่างในฝั่งของผู้บริโภค แต่หากคุณเป็นคนที่ทำธุรกิจทั้งในแบบออนไลน์และออฟไลน์ คุณจะได้ประโยชน์อะไรจากระบบชำระเงินออนไลน์นี้บ้าง

จนถึงวันนี้เชื่อว่าก็ยังมีหลายคนที่ทำธุรกิจค้าขายออนไลน์หรือบนโซเชียลมีเดียแล้วยังทำทุกอย่างแบบ เดิม ยังต้องคอยกรอกข้อมูลต่าง ๆ ด้วยตัวเอง มีการกระทำหลายขั้นตอนที่ยุ่งยาก บางครั้งยังรับชำระค่าสินค้าหรือบริการเป็นเงินสดอยู่เลยก็มี ถามตัวเองว่าธุรกิจของคุณช้าเกินไปหรือไม่ จะเปลี่ยนมาใช้วิธีอื่นที่ง่ายมากขึ้นได้ไหม แล้วต้องเปลี่ยนอะไรบ้าง

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจว่า ทำไมระบบชำระเงินออนไลน์จึงเป็นสิ่งที่คนทำธุรกิจค้าขายออนไลน์ไม่ควรมองข้าม นั่นเพราะทุกกระบวนการในการทำธุรกิจล้วนแล้วแต่มีความสำคัญและส่งผลต่อกำไรและการอยู่รอดของธุรกิจแทบทั้งนั้น เริ่มตั้งแต่กระบวนการผลิต การตลาด การขาย/การบริการ และรวมไปถึงวิธีการชำระเงิน

โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดกลางที่มักมองว่าธุรกิจของตนยังไม่จำเป็นต้องมีระบบการชำระเงินออนไลน์ที่ต้องมีการลงทุนเพิ่มอีกเล็กน้อย มองว่าการรับชำระค่าสินค้าเป็นเงินสดก็เพียงพอแล้ว และคิดว่าวิธีดั้งเดิมนี้ไม่มีต้นทุนเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด

อยากบอกว่าสิ่งที่คิดอยู่นี้เป็นสิ่งที่เข้าใจผิด การรับชำระเงินเป็นเงินสดนั้นมีต้นทุนที่แฝงอยู่ ต้นทุนที่ว่าก็คือเวลาและโอกาสที่คุณได้เสียไป การเสียเวลา เช่น การที่ต้องมาตรวจนับจำนวนเงินสด การจัดหาเงินทอน การกระทบนยอดรายการชำระเงิน ฯลฯ

ส่วนโอกาสนั้น อาจเสียโอกาสในการขายเพราะมีช่องทางการชำระเงินไม่ครอบคลุมพฤติกรรมของลูกค้าสมัยใหม่ มีโอกาสเสี่ยงสูงในการถูกโจรกรรม การได้รับธนบัตรปลอม หรือแม้แต่โอกาสเสี่ยงที่พนักงานจะมีการทุจริตหรือฉ้อโกงได้ง่าย ทั้งหมดที่ว่ามาล้วนเป็นต้นทุนในการทำธุรกิจทั้งสิ้น

และอีกโอกาสที่เกิดขึ้นในปัจจุบันก็คือ โอกาสจากสถานการณ์โควิด แม้โควิดจะถือเป็นวิกฤติของโลก แต่ก็ยังนับว่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับธุรกิจค้าขายออนไลน์ หากใครที่ยังไม่มีการใช้ระบบชำระเงินออนไลน์ในธุรกิจของตนนั้นถือว่าพลาดจริง ๆ แล้วที่ว่าพลาดนั้นพลาดอย่างไร

เพราะการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง และเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบรวดเร็วกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ผู้บริโภคในยุคโควิดได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปใช้วิถีชีวิตแบบ New Normal หลีกเลี่ยงการใช้เงินสด หันไปใช้วิธีการชำระเงินแบบไร้สัมผัสเพื่อลดการแพร่ระบาดของโรค ส่งผลระบบการชำระเงินออนไลน์เติบโตก้าวกระโดด

ดังนั้น การที่ธุรกิจไม่สามารถรองรับความต้องการจ่ายเงินออนไลน์ของลูกค้ายุคใหม่ได้จึงถือว่าพลาดโอกาสดี ๆ ไปอย่างน่าเสียดาย หรือแม้ว่าบางธุรกิจจะจัดให้มีระบบการชำระเงินออนไลน์แล้วก็ตาม แต่หากว่ามีขั้นตอนหรือวิธีการที่ยุ่งยากและซับซ้อนเกินไปก็อาจทำให้ลูกค้าตัดสินใจละทิ้งสินค้าที่เลือกไว้ได้ง่าย ๆ

คงเห็นถึงความสำคัญในเรื่องของการชำระเงินออนไลน์แล้วว่าสามารถช่วยปิดการขายได้ง่ายขึ้น และการที่จะเพิ่มระบบการชำระเงินออนไลน์เข้าไปเป็นกระบวนการหนึ่งของธุรกิจก็เป็นเรื่องที่ไม่ยากและยังไม่สายเกินไปอีกด้วย

ปัจจุบันมีผู้ให้บริการเกี่ยวกับระบบการชำระเงินออนไลน์ที่สามารถช่วยเหลือธุรกิจไม่ว่าจะเป็นขนาดใดก็ตาม โดยมีบริการและฟีเจอร์ที่รองรับการชำระเงินทุกรูปแบบ ทั้งช่องทางเว็บไซต์และช่องทางโซเชียลมีเดีย การเชื่อมต่อระบบทำได้โดยง่าย สามารถควบคุมการใช้งานได้เอง มีความเสถียรและได้มาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก รวมถึงมีทีมงานคอยดูแลอย่างใกล้ชิด


ข้อแนะนำในการเลือกผู้ให้บริการเกี่ยวกับระบบการชำระเงินออนไลน์ต้องดูว่า


1. มีตัวเลือกการชำระเงินที่หลากหลายหรือไม่

เพราะรูปแบบการชำระเงินในปัจจุบันได้ขยายขอบเขตออกไปกว้างขวางพอสมควร การชำระเงินเดี๋ยวนี้นอกจากการโอนเงินผ่านธนาคาร การตัดบัตรเครดิต บัตรเดบิต อินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้งแล้วยังมีรูปแบบอื่น ๆ เพิ่มเติมอีก เช่น ระบบพร้อมเพย์ อี-วอลเล็ต บริการเคาน์เตอร์เซอร์วิสต่าง ๆ บริการชำระผ่านอาลีเพย์ วีแชทเพย์ รวมถึงการมีระบบผ่อนชำระให้อีกด้วย นอกจากนี้การค้าขายผ่านโซเชียลมีเดียก็ยังมีวิธีการชำระเงินที่เป็นของตัวเองได้ เช่น การส่งลิงก์ชำระเงินให้ลูกค้าและลูกค้าสามารถชำระได้ทันที ดังนั้นหากผู้ให้บริการยิ่งมีรูปแบบการชำระเงินมาเท่าใด นั่นหมายถึงโอกาสในการปิดการขายก็มากขึ้นตามไปด้วย

2. ขั้นตอนในการจ่ายเงินยิ่งง่ายยิ่งไวเท่าไหร่ยิ่งดี

เรียกว่ายิ่งลูกค้าจ่ายง่าย จ่ายไว จ่ายสะดวกเท่าไหร่ก็ยิ่งเท่ากับปิดโอกาสการละทิ้งสินค้าได้มากเท่านั้น ในขั้นตอนการชำระเงินนี้ไม่ควรปล่อยหรือยอมให้ลูกค้าออกไปนอกแพลตฟอร์มเด็ดขาด ต้องให้ทุกอย่างสิ้นสุดอยู่ภายในแพลตฟอร์มของเรา ผู้ให้บริการชำระเงินออนไลน์รายได้สามารถออกแบบระบบชำระเงินออนไลน์ให้กับธุรกิจของคุณเช่นนี้ได้ ยิ่งควรต้องพิจารณา

3. การให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลของลูกค้า

ระบบรักษาความปลอดภัยของผู้ให้บริการชำระเงินต้องได้รับมาตรฐานที่เป็นสากล ต้องมีการพัฒนาระบบให้มีศักยภาพพร้อมที่จะรองรับการใช้งานให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา สิ่งนี้จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจไปด้วย

4. สามารถจ่ายเงินออนไลน์ได้ในทุกอุปกรณ์

เพราะทุกวันนี้การทำธุรกรรมผ่านโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตเกิดขึ้นมากกว่าช่องทางอื่น ๆ เพราะสะดวก รวดเร็ว และแอปพลิเคชันของธนาคารต่าง ๆ ก็พัฒนาในเรื่องนี้ไปมากเช่นกัน ดังนั้น ควรเลือกผู้ให้บริการระบบชำระเงินออนไลน์ที่สามารถพัฒนาเรื่องของ Responsive Web Design ได้ดีในทุกอุปกรณ์ แม้ธุรกิจของเราจะเล็กและไม่สามารถมีแอปพลิเคชันของตัวเองได้ ปัญหาในเรื่องของช่องทางการชำระเงินก็จะลดลงไปไม่ว่าลูกค้าจะใช้อุปกรณ์ใดก็ตาม


หากพิจารณากันให้ดี ๆ ระบบชำระเงินออนไลน์นั้นมีความสำคัญมากกว่าที่คิด เพราะเป็นเสมือนด่านสุดท้ายในการปิดการขายเลยทีเดียว อย่าปล่อยให้ลูกค้าหลุดมือไปเพียงเพราะคุณไม่มีวิธีการจ่ายเงินที่หลากหลายมากพอ มีขั้นตอนยุ่งยากและซับซ้อน ไม่สามารถสร้างความมั่นใจในเรื่องของข้อมูลทางการเงินของลูกค้าได้ และวิธีการจ่ายเงินไม่ครอบคลุมทุกอุปกรณ์ แต่อยากบอกว่า ยังไม่สายเกินไปถ้าคุณจะเริ่มเปลี่ยนแปลงในวันนี้และเดี๋ยวนี้