Payment Gateway คืออะไร ทำไมเพิ่มยอดขายให้แม่ค้าออนไลน์ได้

โดย Pay Solutions

---

หากเราทำธุรกิจขายของออนไลน์ไม่ว่าจะเป็นขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ก็ตาม สิ่งที่จะขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือช่องทางการรับเงินจากลูกค้า หากร้านค้าไม่สามารถรับการชำระเงินจากลูกค้าได้ไม่ว่าจะรูปแบบใดก็ตาม นั่นเท่ากับว่าเรากำลังจะสูญเสียยอดขายไปอย่างน่าเสียดาย
แต่ในความเป็นจริง ไม่ใช่ว่าทุกธุรกิจจะสามารถสร้างช่องทางรับเงินทุกรูปแบบเป็นของตนเองได้ ยิ่งเป็นร้านค้าออนไลน์ขนาดเล็กหรือแบบที่ไม่มีหน้าร้านเป็นของตนเองด้วยซ้ำ ยิ่งเป็นเรื่องที่ยากมากเลยทีเดียวที่จะลงทุนสร้างระบบขึ้นมาเองได้ทั้งหมด
นอกเหนือไปจากรูปแบบการชำระเงินทางออนไลน์ที่ต้องมีความหลากหลายแล้ว การสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าในเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลทางการเงินก็เป็นเรื่องสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ยิ่งปัจจุบันยิ่งต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ ด้วยซ้ำ

โซลูชันที่จะสามารถแก้ปัญหาในเรื่องการชำระเงินที่ว่ามาได้ก็คือสิ่งที่เรียกว่า Payment Gateway นั่นเอง

Payment Gateway คือ เทคโนโลยีที่รวบรวมและถ่ายโอนข้อมูลการชำระเงินจากลูกค้าไปยังผู้ขาย พูดง่าย ๆ ก็คือ ช่องทางการชำระเงินทางออนไลน์โดยมีผู้ให้บริการที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างลูกค้า ธนาคารหรือสถาบันการเงินทั้งของลูกค้าและร้านค้า และสุดท้ายไปยังร้านค้าออนไลน์

ปัจจุบันมีผู้ให้บริการชำระเงินออนไลน์หรือ Payment Gateway อยู่ 2 รูปแบบคือ

1. แบบเชื่อมกับธนาคารโดยตรง

เช่น Merchant iPay ของธนาคารกรุงเทพ Krungsri Biz Payment Gateway ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา K-Payment Gateway ของธนาคารกสิกรไทย และ SCB Payment Gateway ของธนาคารไทยพาณิชย์ การชำระเงินในรูปแบบนี้มีความน่าเชื่อถือมาก ค่าธรรมเนียมต่อรายการต่ำ แต่มีเงื่อนไขในการใช้งานค่อนข้างยุ่งยาก ต้องมีเงินฝากค้ำประกันประมาณ 100,000 บาทขึ้นไป ไม่เหมาะกับธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก เหมาะกับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนมากกว่า

2. แบบ 3rd Party Payment Gateway หรือตัวกลางที่ไม่ใช่ธนาคาร

รูปแบบนี้สมัครใช้งานง่ายกว่าแบบธนาคาร ไม่ต้องมีเงินฝากค้ำประกัน ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี แต่ค่าธรรมเนียมต่อรายการนั้นอาจจะสูงกว่าแบบธนาคารนิดหน่อย เช่น Pay Solution ระบบนี้ตอบโจทย์กับธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก เพราะระบบติดตั้งง่าย มีฝ่าย IT ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ให้บริการโดยคนไทยจึงสามารถให้การบริการได้อย่างเข้าอกเข้าใจ

ทำไม Payment Gateway จึงเหมาะกับธุรกิจออนไลน์

● เพราะระบบติดตั้งง่าย ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ธุรกิจเล็กหรือใหญ่ก็สามารถจัดการเองได้ ไม่จำเป็นต้องจ้างนักพัฒนาเว็บไซต์เป็นของตนเอง เรื่องนี้ถือว่าเป็นข้อแตกต่างระหว่างธุรกิจที่มีขนาดเล็กกับขนาดใหญ่ ธุรกิจขนาดเล็กส่วนใหญ่ไม่สามารถลงทุนในการสร้างระบบการชำระเงินเป็นของตนเองได้เหมือนธุรกิจที่มีขนาดใหญ่และมีเงินทุนมากกว่า หรือการจ้างทีมนักพัฒนาระบบเป็นของตนเองก็ทำได้ไม่ง่ายนัก เพราะเป็นการเพิ่มต้นทุนทั้งสิ้น ดังนั้นการเลือกใช้บริการกับผู้ที่ให้บริการ Payment Gateway จึงดูจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมและคุ้มค่ากว่ามาก

● มีระบบความปลอดภัยที่เป็นมาตรฐานสากล เช่น SSL (Secure Sockets Layer), Verified by VISA, MasterCard SecureCode, PCI DSS ฯลฯ การพัฒนาระบบความปลอดภัยให้มีประสิทธิภาพรองรับการใช้งานนั้นจำเป็นต้องมีทีมผู้เชี่ยวชาญคอยพัฒนาอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ต่าง ๆ

● สามารถมีระบบชำระเงินในเว็บไซต์หรือเพจได้โดยที่ไม่ต้องพัฒนาเอง แค่สมัครใช้งานกับผู้ให้บริการเท่านั้น การมีระบบชำระเงินบนเว็บไซต์หรือบนโซเชียลมีเดียเป็นของตนเองนอกจากจะสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าแล้ว ยังอำนวยความสะดวกรวดเร็ว และช่วยปิดการขายได้ง่าย ลูกค้าไม่หนีไปไหน

● ไม่ต้องรอเช็กสลิปจากลูกค้า มีรายงานแบบเรียลไทม์ให้ทราบยอดโอนเข้าทันที ทำให้การบริหารด้านการเงินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

● มีรูปแบบการใช้งานทั้งแบบบนเว็บไซต์และโซเชียลมีเดีย ทำให้ธุรกิจมีช่องทางการขายได้หลากหลาย สามารถพบเจอลูกค้าได้มากขึ้น

● ปัจจุบันรูปแบบการชำระเงินนั้นนอกจากการชำระผ่านบัตรเครดิต บัตรเดบิต Internet Banking แล้วยังครอบคลุมไปถึงการชำระผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส พร้อมเพย์ อี-วอลเล็ต และยังเพิ่มให้มีระบบผ่อนชำระได้อีกด้วย

● นอกจากนั้นการค้าขายผ่านโซเชียลคอมเมิร์ซก็สามารถรับเงินจากลูกค้าผ่านทาง Facebook, Instagram, Line หรือ ช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ได้ทันที ผ่านระบบ Link Payment เพียงแค่ส่ง ลิงก์ ให่กับลูกค้าทั้งในไทยและต่างประเทศก็สามารถจ่ายเงินได้ทันทีผ่านช่องทางที่หลากหลาย

ทำไม Payment Gateway เพิ่มยอดขายให้แม่ค้าออนไลน์ได้

1. ช่วยให้การชำระเงินและการรับเงินสะดวกมากขึ้น รวดเร็ว ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ

2. ช่วยให้มีรูปแบบการทชำระเงินที่หลากหลาย

3. การชำระเงินแบบออนไลน์ เป็นแบบเรียลไทม์

4. ลดความผิดพลาดในเรื่องของการกรอกข้อมูลหรือการทำรายการ เพราะสามารถนำข้อมูลจากฐานข้อมูลมาใช้ได้เลย

5. มีมาตรฐานความปลอดภัย เพราะมีระบบตรวจสอบได้

6. ทำให้ค้าขายได้อย่างไร้พรมแดนไม่ว่าจะในไทยหรือต่างประเทศ

7. ปิดการขายได้ไว ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่าย เพราะสามารถจ่ายเงินได้หลายรูปแบบ สะดวก รวดเร็ว ไม่เสียเวลา

การเลือกผู้ให้บริการระบบชำระเงินออนไลน์หรือ Payment Gateway ก็มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากันดังนั้นควรพิจารณาจาก

- ผู้ให้บริการที่มีช่องการการชำระเงินที่หลากหลายครอบคลุมได้ทุกรูปแบบ ครบวงจรทั้งออนไลน์และออฟไลน์

- มีระบบการรักษาความปลอดภัยได้มาตรฐานสากล มีความน่าเชื่อถือและสร้างความมั่นใจทุกครั้งที่ทำธุรกรรม

- มีระบบเชื่อมต่อง่าย รองรับ CMS มากมาย เป็นมิตรกับการพัฒนาระบบต่อไปในอนาคต

- มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาระบบและอัปเดตซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ให้ทันสมัยอยู่เสมอ

- มีการคิดค่าธรรมเนียมที่สมเหตุสมผล

- การให้บริการที่เป็นมิตร พร้อมให้บริการอยู่เสมอ รวดเร็ว ติดต่อง่าย

PaySolutions.asia ผู้ให้บริการ Payment Gateway ให้บริการระบบชำระเงิน e-Payment ระบบชำระเงินออนไลน์เพื่อเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น เช่น บัตรเครดิต บัตรเดบิต จุดรับชำระผ่านเคาน์เตอร์ อินเทอร์เน็ตแบงค์กิ้ง รวมไปถึงการชำระเงินแบบผ่อนชำระนานสูงสุด 10 เดือน ฯลฯ และ Pay Social บริการชำระเงินผ่านทางโซเชียลมีเดียด้วยระบบ Link Payment ลิงก์ชำระเงินผ่านโซเชียลมีเดีย

มีมาตรฐานความปลอดภัยสูงระดับสากล SSL (Secure Sockets Layer) เพิ่มความปลอดภัยในการชำระเงินด้วยระบบรักษาความปลอดภัย Verify by VISA และ MasterCard SecureCode รวมถึงระบบตรวจสอบทุกรายการสั่งซื้อ ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าทุกรายการการชำระเงินออนไลน์เป็นเรื่องปลอดภัยที่สุด

มีระบบเชื่อมต่อง่าย รองรับ CMS มากมาย ได้แก่ Woocommerce, Virturemart, Magento, Opencart สะดวกสบายทั้งผู้ขายและนักพัฒนา บริการระบบชำระเงินออนไลน์ ที่พร้อมสนับสนุนให้ร้านค้าสามารถรับชำระเงินได้ในรูปแบบที่หลากหลาย Pay Solutions พร้อมพัฒนาบริการที่มีคุณลักษณะเฉพาะเพื่อตอบสนองให้ทุกธุรกิจเติบโตได้ต่อเนื่องต่อไป